ชีวิตวัยเด็ก

       พิมพ์จ๋าลืมตาดูโลกที่กรุงเทพฯ นี่แหละ แต่คุณย่าก็ขอเอาพิมพ์จ๋าไปเลี้ยงอยู่ที่ปราจีนบุรีจนพิมพ์จ๋าอายุ 3 ขวบ พิมพ์จ๋าก็กลับมากรุงเทพฯจนถึงป.3 พอป.4 พิมพ์จ๋าต้องกลับไปที่ปราจีนบุรีอีกเพราะคุณย่าไม่สบาย เป็นอัมพาตทั้งตัว คุณปู่ก็เลยขอให้พิมพ์จ๋ากลับไปช่วยดูแลคุณย่า เพราะคุณปู่ต้องออกไปทำสวน กว่าจะกลับเข้าบ้านก็มืดแล้ว ด้วยความเป็นเด็กเลยอยู่เฉยไม่เป็น    นอกจากพิมพ์จ๋าจะต้องช่วยหุงข้าว ป้อนข้าวย่า  แถมเดินไปกลับบ้านกับโรงเรียนวันละ 3-4 รอบ เพราะพิมพ์จ๋าต้องกลับมาป้อนข้าวย่าตอนเที่ยงด้วย แต่พิมพ์จ๋าก็มี พี่เหน่ง ลูกพี่ลูกน้องที่รักและสนิทกันมากเดินไปโรงเรียนด้วย เราสองคนทำกิจกรรมร่วมกันเสมอ แต่พิมพ์จ๋าจะชอบร้องและฟังเพลงมาก  เวลาเราไปไหนมาไหน  หรือทำอะไรด้วยกันข้างกายพิมพ์จ๋าจะต้องมีวิทยุทรานซิสเตอร์ติดตัวตลอดเลยแหละ  อย่างเวลาพิมพ์จ๋ากับเหน่งช่วยกันเก็บถั่วเขียวที่ขนาดฝักเล็กกว่านิ้วก้อย  ก็ต้องเก็บให้ได้มากเท่าหนึ่งกระสอบป่านสีน้ำตาลใหญ่ ๆ แต่ก็ไม่เคยเก็บได้เท่านั้นเลย คนจ้างเขาก็ใจดีแบ่งถั่วเขียวมาให้กิน  ทำให้พิมพ์จ๋าชอบกินถั่วเขียวต้มขิงมาจนตอนนี้  หรือบางครั้งพิมพ์จ๋าจะปืนต้นมะยม ขย่มกิ่ง   เหน่งก็จะอยู่ข้างล่างเอาผ้าห่มรองพื้นดินไว้ เพราะเหน่งเขาเป็นกะเทยอ้อนแอ้น จะไม่ค่อยกล้า  แต่พิมพ์จ๋าจะมีนิสัยลุย ๆ ไม่กลัวตก พิมพ์จ๋าก็จะเปิดทรานซิสเตอร์ไปร้องเพลงไปพลางโยกต้นมะยมไป แล้วเราก็ช่วยกันเอามะยมไปดองบ้างเชื่อมบ้าง   แล้วเอาไปฝากร้านค้าในตำบลเขาขาย แต่ตอนเด็ก ๆ ปู่ก็จะหวงพิมพ์จ๋ามาก  ก็มีหลายครั้งที่พิมพ์จ๋ากับเหน่งแอบหนีปู่ไปเที่ยวงานวัด  เพราะเขาจะมีหนังกลางแปลงมา  พิมพ์จ๋าก็จะเอามะยมไปขายด้วย อยู่ปราจีนฯคราวนี้นาน 3 ปี จนกระทั่งคุณอา น้องสาวคุณพ่อที่เชียงใหม่มาขอพิมพ์จ๋าไปเลี้ยง เพราะเขาไม่มีลูก ประจวบกับที่อาผู้ชาย น้องพ่ออีกคนหนึ่งเขาแต่งงาน   เลยขอย้ายมาอยู่ที่ปราจีนฯพร้อมภรรยาเขา ก็เลยได้สะใภ้มาดูแลย่าแทน พิมพ์จ๋าเลยได้ไปอยู่เชียงใหม่

      ช่วงที่พิมพ์จ๋าอยู่เชียงใหม่คือช่วงที่เรียนมัธยม จากเด็กซน ๆ แก่น ๆ อยู่นิ่งไม่ได้ กลายเป็นต้องไปอยู่ในกรอบ เพราะอาเป็นคนเข้มงวดมาก ไม่ค่อยให้พิมพ์จ๋าออกไปไหน พิมพ์จ๋าก็เลยไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร  นอกจากทำกับข้าวให้ลูกจ้างของอาหม้อใหญ่ ๆ  ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน และหลังเลิกเรียนตอนเย็นด้วย เพราะอาเป็นเจ้าของร้านเสริมสวย 3 สาขาที่เชียงใหม่  พิมพ์จ๋าจะอยู่ที่สาขาท่าแพ บางครั้งลูกค้าเยอะพิมพ์จ๋าก็ต้องช่วยสระผม ทำเล็บบ้าง  หรือถือไดร์เป่าผมบ้าง นอกจากจะต้องอยู่ในกรอบแล้ว พิมพ์จ๋ายังต้องขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียน เพราะว่ามีบัตรให้นักเรียนนั่งฟรี แต่คนแน่นมาก อาก็ไม่ยอมให้พิมพ์จ๋านั่งรถแดง แม้มันจะแค่หนึ่งบาทก็เถอะ ตอนนั้นก็คิดน้อยใจว่าทำไมไม่ให้นั่งรถแดง แต่พอโตขึ้นมาก็ต้องขอบคุณอาที่สอนพิมพ์จ๋าให้เป็นคนประหยัด   ถ้าอาไม่ให้พิมพ์จ๋าลำบากบ้าง พิมพ์จ๋าก็ไม่มีวันนี้หรอก เพราะอาเขาสอนสิ่งดี ๆ ให้กับพิมพ์จ๋า  แต่ตอนเราเป็นเด็กเราไม่เข้าใจ ทำไมต้องให้ลำบากขนาดนี้กัน แต่พิมพ์จ๋าก็โชคดีที่มีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ชื่อ รัชนา เป็นลูกคนมีสตางค์ อยู่ตึกแถวติดกัน รัชนาบอกพิมพ์จ๋าว่า “ฮาออกให้คิง” แล้วก็พาพิมพ์จ๋านั่งรถแดงตลอด จนถึงม.หกเลย   เวลาเอาข้าวไปกินที่โรงเรียนพิมพ์จ๋าก็จะเอาข้าวไปเผื่อรัชนา  แล้วรัชนาก็จะไปซื้อกับข้าวมาแบ่งกันกิน   ยิ่งกว่านั้นสมัยวัยรุ่นพิมพ์จ๋ามีเสื้อผ้าดี ๆ  ก็เพราะรัชนาซื้อให้นี่แหละ   แต่ตอนนี้รัชนาก็แต่งงานไปอยู่ที่เชียงรายแล้ว

      จบมัธยม 6 พิมพ์จ๋าก็กลับมาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก็กลับมาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่แล้ว ตอนนั้นคุณพ่อเป็นจีเอ็มอยู่โรงแรมนารายณ์ที่สีลม ก็ให้พิมพ์จ๋ามาฝึกงานที่โรงแรมหลังเลิกเรียน ทำเป็นรายวัน พิมพ์จ๋าก็ได้ฝึกงานทุกแผนกเลย แผนกละหกเดือน แล้วมีวันหนึ่งแม่ก็พาพิมพ์จ๋าไปเดินเล่นแถว ๆ สยาม  ก็มีแมวมองมาชวนให้พิมพ์จ๋าลองประกวดดู สรุปว่าพิมพ์จ๋าก็ได้เป็นมิสทีนสยาม (สยามเซ็นเตอร์) ด้วย   หลังจากนั้นคุณแม่ก็พาพิมพ์จ๋าไปประกวดนางงามล่ารางวัลไปเรื่อย ๆ เลย  ระหว่างนั้นพิมพ์จ๋าก็ไม่ได้ทิ้งการร้องเพลงลูกทุ่งนะ  เพราะก็ได้โชว์ตอนประกวดด้วย แล้วยังมีโอกาสได้ร้อง ได้แสดงในคาเฟ่อีกด้วย 



 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     พิมพ์จ๋าเคยเป็นพิธีกรอยู่ลูกทุ่งเจ็ดสีด้วย แล้วคุณยุวดี บุญครองรู้ว่า  พิมพ์จ๋าร้องเพลงลูกทุ่งใช้ได้เลยให้ออกอัลบั้มชื่อกับบริษัท อัครมีเดีย หนึ่งชุด ชื่อ จุ๊กกรู๊ จุ๊กกรู จุ๊กกรู แต่บริษัทก็ปิดตัวลงเสียก่อน   พิมพ์จ๋าก็เลยออกมาเปิดธุรกิจเองจากเงินที่พิมพ์จ๋าเก็บหอมรอมริบมา  แต่ก็ยังติดต่อกับศิลปินลูกทุ่งที่รู้จักเรื่อย ๆ เลย  ทำให้พิมพ์จ๋าได้มีโอกาสตามพี่ ๆ ศิลปินลูกทุ่งดัง ๆ อย่าง   พี่ดาว มยุรี พี่ฮาย อาภาพร  พี่เอกชัย ศรีวิชัย และพี่ยิ่งยง  ไปร้องเพลงที่ต่างประเทศอยู่เรื่อย ๆ เลย     จนพิมพ์จ๋ามาขายปุ๋ย ลงทุนร่วมกับพี่ยิ่งยง    พิมพ์จ๋าไปหาเกษตรกรถึงไร่นาเองเลยนะ ทั้งผลิตเอง ดูงานเอง ไปหาชาวนาชาวไร่เองเลย   เพราะอยากเอาปุ๋ยคุณภาพดีไปให้เขาทดลองใช้  แล้วพี่ยิ่งยงก็ชวนพิมพ์จ๋าออกอัลบั้มเองชุดหนึ่ง  ก็ชุดนี้  “หนูชอบผัวพี่”  นี่แหละ

     เพราะชีวิตวัยเด็กของพิมพ์จ๋าไม่ได้สวยหรู หรือสบายอะไร  แถมยังมีญาติผู้ใหญ่ช่วยอบรมสั่งสอนให้พิมพ์จ๋ารู้จักความลำบาก    และรู้จักสู้ชีวิต     เลยทำให้พิมพ์จ๋าเป็นคนขยัน อดทน   อยู่เฉยไม่ได้อย่างที่เป็นทุกวันนี้               และยังทำให้พิมพ์จ๋ากลายเป็นคนที่จะทำอะไรก็ตั้งใจทำจริง ๆ และทำให้ดีที่สุด        เพราะพิมพ์จ๋าเชื่อว่า พิมพ์จ๋าสามารถทำได้ และทำได้ดี   อย่างอัลบั้ม  “หนูชอบผัวพี่”   อัลบั้มนี้   พิมพ์จ๋าใช้เวลาฝึกร้องเพื่อจำเนื้อเพลงให้แม่น   ก่อนจะยอมเข้าห้องอัด  เพื่อให้ได้อารมณ์ที่สุด เพราะเพลงลูกทุ่งจะต้องใช้ทั้งอารมณ์  น้ำเสียง  รู้เสียงหนักเสียงเบา ใช้ลูกคอ เอื้อนเสียง สะบัดเสียง ทิ้งเสียง และหายใจให้ถูกจังหวะ    พิมพ์จ๋าก็เลยฝึกให้พร้อม   แล้วค่อยเข้าห้องอัด    เพื่อให้แฟนเพลงของพิมพ์จ๋าได้ฟังทั้งเสียงร้อง  และเสียงเพลงที่เน้นแต่คุณภาพ อย่างทั้ง 10 เพลงนี้เท่านั้น

      
      แฟนๆ อย่าลืมติดตาม และให้กำลังใจ ลูกทุ่งอินเตอร์ สาวเสียงยิ้ม พิมพ์จ๋า คนนี้นะคะ ^^


New Single : รอรักที่กัมพูชา - พิมพ์จ๋า ยอดบัวงาม
ขอฝากเพลงใหม่ของ พิมพ์จ๋า ด้วยนะคะ

BG Music Production ติดต่องานแสดง : 081-8517125

เพลง : รอรักที่กัมพูชา ศิลปิน : พิมพ์จ๋า ยอดบัวงาม 
อัลบั้ม : เพลงดังที่เราชอบ ชุดที่ 2
ผลิตโดย : BG Music Production

แวะไปทักทาย พิมพ์จ๋าได้ที่ fb/ilovepimja

 

 ติดต่อการแสดง
 

081 - 432 - 6432
081 - 851 - 7125
081 - 859 - 3345

 MV อัลบัม หนูชอบผัวพี่

 เวลาที่มีค่าของ พิมพ์จ๋า

 Time

 View

 สถิติวันนี้ 10 คน
 สถิติเมื่อวาน 41 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
66 คน
3298 คน
169220 คน
เริ่มเมื่อ 2011-11-15




        Copyright 2011 © บริษัท บัวงามอินเตอร์ จำกัด